สงครามการค้าระหว่าง สหรัฐอเมริกากับจีน จากปลายปีที่แล้วต่อเนื่องมาจนถึงกลางปีนี้ เชื่อว่าความร้อนแรงที่ไปลงกับ หัวเว่ย จากการแบนของสหรัฐนั้นถือว่าเป็นหมัดเด็ดที่แม้จะไม่ทำให้หัวเว่ยตายในทันที แต่ก็ถือว่าส่งผลกระทบยอดขาย และความน่าเชื่อถือภาพลักษณ์ไปได้มากเหมือนกัน หลายคนที่กำลังกังวลสงสัยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้เรื่องราวเป็นอย่างไรเรามาสรุปสถานการณ์กัน
ยกเลิกแบนแล้วจ้า
ก่อนอื่นต้องเป็นข่าวดีเลย นั่นก็คือ ทางสหรัฐอเมริกาได้ออกมายกเลิกการแบนหัวเว่ยแล้ว ซึ่งการยกเลิกหมายถึงการปรับหัวเว่ยออกจากแบล็คลิสต์บริษัทเฝ้าระวังจากทางอเมริกาเอง โดยการยกเลิกแบนนั้นไม่ได้หมายถึงปลดแล้วเลิกเลย แต่เป็นการปลดแล้วรอไปอีก 3 เดือนถึงจะยกเลิกการแบล็คลิสต์นั้นจริงๆ แม้เราจะยังไม่รู้ว่าก่อนจะถึง 3 เดือนนั้นจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกก็ตาม แต่การออกมาปลดแบนแบบนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าดีใจที่ทุกทางออกมาในทางคลี่คลายมากขึ้น
เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้(เหรอ)
เหตุผลในการยกเลิกแบนครั้งนี้ของสหรัฐอเมริกานั้น หากเป็นภาษาไทยแบบบ้านเรามันคงไม่ใช่เหตุผล มันเป็นการ “แถ” มากกว่า เค้าบอกว่าที่ต้องยกเลิกเป็นเพราะว่าการแบนหัวเว่ยกระทบผู้ใช้เป็นวงกว้าง(อันนี้จริง) เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้จึงต้องยกเลิกการแบนเพื่อให้ผู้ใช้กลับมาใช้บริการได้ตามปกติ แหม สีข้างถลอกเลือดซิบเลยนะ

ยกต่อไปสำคัญ
อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์จะดูเหมือนคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น แต่ความจริงแล้ว มันเหมือนเป็นเพียงแค่การพักยกนักมวยเข้ามุมให้น้ำกับพี่เลี้ยงเท่านั้นเอง เมื่อได้น้ำท่าแล้วเชื่อว่า สหรัฐและจีน เองก็คงต้องออกมาฟัดกันต่อในยกต่อไปน่าสนใจว่า ยกต่อไป อเมริกา จะเอาตรงไหนมาขัดขาจีนไม่ให้ผงาดง้ำค้ำโลก มากกว่านี้เร็วกว่านี้อีก ซึ่งคราวนี้คงต้องหาเหตุผลดีๆ เนื่องจากการเตะถ่วงแบบไม่มีเหตุผลแบบนี้หากทำบ่อย และติดกัน มันจะดูเฝือจนทำให้อเมริกาอาจจะกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาชาวโลกได้ รวมถึงจีนเองก็คงไม่งอมืองอเท้ายอมโดนกระทำฝ่ายเดียวแน่นอน ยกต่อไปสำคัญมากว่าใครจะเล่นใคร และมีไม้ตายอะไรซ่อนไว้อีก
ก้าวต่อไปของ หัวเว่ย
การโดนครั้งนี้ของหัวเว่ยเอง อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ดี แต่ความจริงหากตั้งสติให้ดี หัวเว่ย โดนครั้งนี้อาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้ เพราะมันทำให้เค้าตื่นจากฝันเลยว่า แม้ว่าโทรศัพท์ของพวกเค้าดีแค่ไหน ฮาร์ดแวร์ เจ๋งแค่ไหน แต่หากยังต้องพึ่งระบบ ecosystem จากระบบกูเกิ้ล ระบบแอนดรอยด์ อยู่พวกเค้าก็ก้าวไปข้างหน้าไม่ได้ไกล ในอนาคตอาจจะมีเหตุการณ์เตะตัดขาแบบนี้อีกก็ได้ ก้าวต่อไปของพวกเค้ากับการดันระบบปฏิบัติการของตัวเองออกมาใช้นับว่าน่าสนใจมาก จะดันออกมาหรือกลับไปใช้แอนดรอยด์อย่างเดิม ต้องมาลุ้นกัน