สหรัฐแสบหลอกใช้ชาวเคิร์ดและหักหลังซ้ำแล้วซ้ำเล่า

US-deceived-using-Kurdish-people-news-site

ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา Donald trump ได้มีคำสั่งให้ถอนกำลังทางทหาร ออกมาจากบริเวณพื้นที่ทางตอนเหนือของซีเรีย ซึ่งเป็นอาณาบริเวณติดต่อกับชายแดนตุรกี ในวันที่ 7 ตุลาคม 2019 โดยเป็นการเปิดช่องทางให้เกิดความสะดวก ให้กองทัพตุรกีบุกเข้ายึดครองในบริเวณดังกล่าวได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยอาณาเขตตรงจุดนี้ เป็นพื้นที่ยึดครองของกองกำลังชาวเคิร์ดที่อยู่ในซีเรียอีกทั้งยังเป็นสถานที่สหรัฐอเมริกากำลังยึดครองอยู่

สหรัฐหลอกใช้ชาวเคิร์ด !

ไม่ว่าทางสหรัฐจะยกอ้างเหตุผลอันใดขึ้นมา หากแต่การถอนทหารดังกล่าวก็เห็นกันอยู่ว่า การกระทำเช่นนี้ คือ การทอดทิ้งกองกำลังชาวเคิร์ดในซีเรีย ซึ่งในอดีตเคยเป็นพันธมิตรร่วมกันแบบหลังชนฝา กับทหารอเมริกันพร้อมทำการสู้รบ , ปราบปรามกองกำลังของไอซิสแบบแท้จริง นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่สุด คือ แล้วหลังจากนี้จะทำอย่างไรกับนักโทษไอซิสที่เป็นชาวยุโรปอีกจำนวนกว่า 5,000 คน จำนวนนี้ยังไม่นับรวมถึงครอบครัวของนักโทษไอซิสอีกหมื่นคนขึ้นไป ! โดยล้วนแล้วแต่เป็นพลเมืองของประเทศในยุโรปแทบทุกประเทศทั้งสิ้น และประเทศเหล่านี้ต่างก็ออกมาปฏิเสธในการยอมรับประชากรไม่ว่าจะเป็นนักรบก็ตาม หรือครอบครัวของนักรบเหล่านี้ก็ตาม ไม่ยินดีอ้าแขนรับกองกำลังไอซิสของประเทศของตนกลับประเทศ

news-US-deceived-using-Kurdish-people-site

ปัจจุบันนี้กองกำลังชาวเคิร์ด กำลังรับผิดชอบการคุมขังนักโทษไอซิสรวมทั้งครอบครัวของพวกเขาอยู่

มาทำความรู้จักกับชาวเคิร์ดกันหน่อย โดยชนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ในโซนอินโด-ยูโรเปียน เฉกเช่นเดียวกับชาวอิหร่าน หากแต่ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ทั้งชาวอาหรับและชาวเคิร์ด โดยประชากรชาวเคิร์ดในตะวันออกกลางมีจำนวนมากถึง 40 ล้านคน ซึ่งพบได้ทั่วไปในประเทศตุรกี ซีเรีย อิรักและอิหร่าน จัดว่าเป็นกลุ่มคนที่มีใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งไม่มีประเทศเป็นของตนเอง ย้อนไปหลังเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ประเทศของชาวเคิร์ดก็ได้รับการต่อตั้งขึ้นมา ภายใต้ชื่อว่า ‘เคอร์ดิสถาน’ โดยมีเนื้อที่ 392,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นอาณาเขตกว้างใหญ่มาก ครอบคลุมดินแดนบางส่วนของ ตุรกี , ซีเรีย , อิรัก และอิหร่าน

หากแต่อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา สหรัฐอเมริกาก็เล่นมีทีท่าที่ไม่ดีต่อชาวเคิร์ด รวมทั้งประเทศที่มีชาวเคิร์ดอาศัยอยู่ ยกตัวอย่างจากเหตุการณ์จริง เช่น ในช่วงเกิดสงครามระหว่างอิรัก – อิหร่าน ตอนนั้น 2 ประเทศนี้ไม่กินเส้นกับสหรัฐอเมริกา ทางด้านสหรัฐเห็นดังนั้น จึงยื่นอาวุธให้ชาวเคิร์ดทั้ง 2 ประเทศรวมทั้งให้การสนับสนุนทางการเงินเพื่อต่อต้านรัฐบาลกลาง หลังจากนั้นเมื่อเหตุการณ์เป็นไปตามที่สหรัฐพอใจ ทางสหรัฐก็ทิ้งให้ชาวเคิร์ดถูกจัดการจากรัฐบาลกลางไป ส่วนตนเองก็ลอยลำ

คร่าชีวิตและทำลายหมู่บ้านอย่างโหดเหี้ยม

นอกจากนี้ทางสหรัฐก็เดินหน้าเพื่อปราบปรามกลุ่มกบฏชาวเคิร์ดในตุรกีอย่างไม่หยุดยั้ง ผ่านการการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ทางอาวุธยุทธ์ต่างๆ โดยให้ประเทศอื่นออกหน้า สำหรับเหตุการณ์ความไม่สงบนี้ เกิดในสมัยนาย Bill Clinton เป็นประธานาธิบดี เหตุการณ์ในคราวนี้ มีการพรากชีวิตชาวเคิร์ดในตุรกีไปจำนวนนับหมื่นราย อีกทั้งหมู่บ้านของพวกเขาก็ถูกทำลายนับพันหมู่บ้านเลยทีเดียว

เท่านั้นยังไม่พอเมื่อชาวเคิร์ดในอิรักมีพละกำลังมากยิ่งขึ้น จากการที่สหรัฐอเมริกามอบอาวุธให้ ในเหตุการณ์กวาดล้าง Saddam Hussein จอมเผด็จการแห่งอิรัก อักทั้งสหรัฐยังสนับสนุนให้ชาวเคิร์ดในอิรักปะทะกับกองกำลังไอซิสอีกต่างหาก ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการใช้งานอันโหดมาก แต่ถึงอย่างไรก็ตามสหรัฐก็ยังทำไม่สนใจ เมื่อตุรกีทิ้งระเบิดใส่ฐานที่มั่นของชาวเคิร์ดในอิรัก และก็เป็นอีกครั้งที่สหรัฐอเมริกาแสดงให้เห็นถึงการไม่แคร์ชาวเคิร์ดเลยแม้แต่น้อย